พิสูจน์ก่อนตัดสินใจซื้อรถเก๋ง Toyota Camry มือสอง ว่าด้วยเรื่องประหยัดน้ำมัน

ประสบการณ์ใช้รถ | 7 ธ.ค 2566
แชร์ 8

หากคุณคือหนึ่งในคนที่เลือกซื้อรถ โดยยึดจากอัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน เชื่อว่า Toyota Camry จะตอบโจทย์คุณได้ พร้อมไขข้อสงสัยที่หลายคนถาม Toyota Camry ประหยัดน้ำมันจริงหรือไม่ แล้วหากจะซื้อมือสองเลือกแบบไหนดีที่สุด

พิสูจน์ก่อนตัดสินใจซื้อรถเก๋ง Toyota Camry มือสอง ว่าด้วยเรื่องประหยัดน้ำมัน

พิสูจน์ก่อนตัดสินใจซื้อรถเก๋ง Toyota Camry มือสอง ว่าด้วยเรื่องประหยัดน้ำมัน 

สำหรับรถเก๋งสุดฮอตจากค่ายใหญ่ Toyota อย่าง รถเก๋งมือสอง Toyota Camry นั้น เรียกว่าเป็นหนึ่งในรถเก๋งที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ก็ยังคงความฮิตและฮอตอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งอย่างที่หลายคนรู้กันดีอยู่แล้วว่ารถ Toyota Camry นั้น มีจุดเด่นคือ ยนตรกรรมที่พรีเมียม เส้นสายการออกแบบที่หรูหรา มีคลาส ขนาดของตัวรถสามารถสัมภาระสิ่งของได้อย่างถึงใจ ที่สำคัญ สมรรถนะก็ยังเหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและทางไกล เรียกว่าเป็นรถที่เกิดมาพร้อมคุณภาพที่ถูกอกถูกใจคนไทยไม่น้อย 

รถเก๋ง Toyota Camry ประหยัดน้ำมันจริงหรือไม่

รถเก๋ง Toyota Camry ประหยัดน้ำมันจริงหรือไม่

แต่เชื่อหรือไม่ว่า หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เหล่าผู้ใช้ประทับใจ และเลือกซื้อรถเก๋ง Toyota Camry ทั้งมือหนึ่งและมือสองมาใช้นั้น ก็เป็นเพราะว่าอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานที่ถือว่าทำได้ดีมากกว่ารถเก๋งรุ่นอื่น ๆ ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเท่ากัน ซึ่งวันนี้ chobrod จะพาคุณไปหาคำตอบว่า รถเก๋ง Toyota Camry ประหยัดน้ำมันจริงหรือหลอกกันแน่ 

รู้จักเครื่องยนต์ที่ Toyota Camry ใช้ 

ก่อนจะไปฟันธงเรื่องการประหยัดน้ำมันของรถเก๋ง Toyota Camry นั้น จะต้องทำความเข้าใจประเด็นหลักก่อนว่า รถแต่ละคันที่มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานต่างกันนั้น ย่อมมีผลมาจากลักษณะของเครื่องยนต์ด้วยกันทั้งสิ้น เช่น ในรถ Toyota Camry รุ่นปี 2019 ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.5HV และ 2.5HV Premium จะมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 4.0 ลิตร/100 กิโลเมตร ในขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0G และ toyota camry 2.5 g กินน้ำมันอยู่ที่ 6.4 ลิตร/100 กิโลเมตร เพราะฉะนั้น สิ่งที่ทำให้รถยนต์แต่ละคันมีอัตราการสิ้นเปลืองแตกต่างกัน ก็คือเครื่องยนต์ที่ใช้นั่นเอง ดังนั้น เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า เครื่องยนต์ที่ Toyota Camry ใช้นั้น มีรุ่นอะไรบ้าง โดยจะนับตั้งแต่รุ่นโฉมปี 2011 - ปัจจุบัน เท่านั้น 

1. เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร

สำหรับรถเก๋ง 4 ประตู อย่าง Toyota Camry ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร จะแบ่งออกเป็น 3 รหัส หลัก ๆ ได้แก่

  1. รหัส 1AZ-FE (รุ่นปี 2011 - 2014) ให้กำลังสูงสุด 148 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 190 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
  2. รหัส 6AR-FSE (รุ่นปรับโฉมใหม่ ปี 2015 - 2017) ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ช่วยเพิ่มอัตราการประหยัดพลังงานจากรุ่นที่แล้วมาอีก 30% เลยทีเดียว
  3. รหัส 6AR-FBS (รุ่นเจเนอเรชั่นที่ 8 ปี 2018 - ปัจจุบัน) ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที

โดยอัตราการสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ก็จะแตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน แต่หากยึดตามเครื่องยนต์รหัส 6AR-FBS รุ่นเจเนอเรชั่นปัจจุบันแล้ว จะมีอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 6.4 ลิตร/100 กม. ซึ่งถือเป็นอัตราการสิ้นเปลืองที่เพียงพอต่อการใช้งานโดยทั่วไป

อ่านเพิ่มเติม

>> เปิดลิสต์รถ Toyota Camry มือสองน่าใช้ ต้อนรับเดือนสิงหาคมนี้
>> ขคำถามที่อยากรู้ Toyota Yaris รุ่นปี 2013-2016 ในตลาดรถมือสองยังน่าใช้หรือไม่

อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของรถ Toyota Camry แต่ละรุ่น

Toyota camry อัตราสิ้นเปลือง แต่ละรุ่น

2. เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร

ในส่วนของเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรนี้ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน คือ 2.5 ลิตร กับรุ่น 2.5 ลิตร Hybrid แน่นอนว่า สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ หากเป็นรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid ก็จะยิ่งมีอัตราการสิ้นเปลืองที่ดีกว่าเครื่องยนต์ธรรมดา โดย Toyota Camry เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ก็จะมีรหัสที่แตกต่างกันออกไป คือ

  1. รุ่น 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE (รุ่นปี 2011 - 2017) ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 231 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที
  2. รุ่น 2.5 ลิตร รหัส A25A-FKB (รุ่นเจเนอเรชั่นที่ 8 ปี 2018 - ปัจจุบัน) ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาที
  3. รุ่น 2.5 ลิตร Hybrid รหัส 2AR-FXE (รุ่นปี 2011 - 2017) ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที โดยที่กำลังสูงสุดเมื่อผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว จะสามารถให้กำลังสูงสุดที่ 205 แรงม้า
  4. รุ่น 2.5 ลิตร Hybrid รหัส A25A-FXS (รุ่นเจเนอเรชั่นที่ 8 ปี 2018 - ปัจจุบัน) ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบต่อนาที โดยที่กำลังสูงสุดเมื่อผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว จะสามารถให้กำลังสูงสุดที่ 211 แรงม้า

สำหรับ camry 2.5 อัตราสิ้นเปลือง เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 6.4 ลิตร/100 กิโลเมตร แต่หากเป็นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Hybrid จะมีอัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 4.0 ลิตร/100 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นอัตราการสิ้นเปลืองที่ค่อนข้างน้อย หากเทียบกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร (ธรรมดา) 

อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของรถ Toyota Camry แต่ละรุ่น

อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของรถ Toyota Camry มือสอง แต่ละรุ่น

ไขความลับ Toyota Camry รุ่นไหนประหยัดพลังงานได้ดีกว่า

หากใครที่พอเข้าใจลักษณะของเครื่องยนต์ที่รถเก๋ง Toyota Camry ใช้แล้ว ก็คงจะพอนึกภาพออกว่า เครื่องยนต์แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร มีขุมพลังแบบไหนบ้าง camry กินน้ํามันไหม และมีอัตราการสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยที่เท่าไหร่ ทีนี้ เราก็จะมาฟังรีวิวจากการใช้งานจริงที่ผู้ใช้รถได้อธิบายถึงอัตราการประหยัดน้ำมันของรถเก๋ง Toyota Camry เพื่อพิสูจน์ว่าในแต่ละรุ่นที่ใช้นั้น ประหยัดพลังงานจริงหรือไม่ โดยเราจะมาสรุปข้อคิดเห็นจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ดังนี้ 

ความคิดเห็นที่ 1
“Toyota Camry 2.0 ลิตร วิ่งในระยะทางทั้งหมด 202 กม. โดยเส้นทางที่ใช้คือวิ่งในเมือง ที่มีสภาพถนนค่อนข้างเล็ก ขับแล้วหยุดค่อนข้างบ่อย วิ่งได้เต็มที่ไม่เกิน 50 กม./ชม. ทำได้ประมาณ 8 – 10.5 กม./ลิตร ต่อมา วิ่งนอกเมืองระยะทางประมาณ 20 กม. ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. อัตราการสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ 13.9 กม./ลิตร”

ความคิดเห็นที่ 2 
“Toyota Camry 2.0 ลิตร ในวันที่ออกรถวันแรก เข้าปั๊มเติมแก๊สโซฮอล์ 95 วิ่งไป 290 กม. เติมจนหัวจ่ายตัด ได้น้ำมันมา 31 ลิตร เฉลี่ยแล้วอัตราการสิ้นเปลืองตลอดระยะทางอยู่ที่ 9.6 กม./ลิตร”

ความคิดเห็นที่ 3 
“Toyota Camry 2018 2.5 ลิตร Hybrid ขับขี่ไปในระยะทาง 279.1 กม. camry hybrid อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 13.5 กม./ลิตร ซึ่งรถยังไม่ได้ผ่านช่วงรันอินมาแต่อย่างใด”

ความคิดเห็นที่ 4 
“Toyota Camry 2017 2.5 ลิตร Hybrid วิ่งแล้วลองสังเกตพบว่ามีอัตราประหยัดสูงสุดถึง 33.4 กม./ลิตร”

ความคิดเห็นที่ 5 
“หากรวมกับสมรรถนะการขับขี่แล้ว รุ่น 2.5 ลิตร เป็นคันที่ Recommend ที่สุดในตระกูล Camry ทั้งหมด แถมยังสามารถเติม E85 ได้ เมื่อลองมาเทียบแล้ว หากเติม E85 จะจ่ายแพงกว่ารุ่น Hybrid ที่เติม E20 อยู่ประมาณ 50 สตางค์/กม. ในขณะที่ราคารถจะถูกกว่ารุ่น Hybrid หลายหมื่นไปจนถึงสองแสนนิด ๆ หากเทียบกับรุ่น Hybrid Premium”

จากรีวิวประสบการณ์ใช้งาน ที่กล่าวถึงอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของรถเก๋ง Toyota Camry นั้น ทำให้เห็นว่า หากมองแค่ในมุมของความประหยัดน้ำมัน ก็จะต้องเลือกรุ่นตระกูล Hybrid เป็นหลัก เพราะด้วยการทำงานของเครื่องยนต์ จะช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดพลังงานได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด 

ตัวอย่างรถเก๋ง Toyota Camry มือสอง

ตัวอย่างรถเก๋ง Toyota Camry มือสอง

ตัวอย่างรถเก๋ง Toyota Camry มือสอง

สำหรับข้อมูลของการใช้งานรถเก๋ง Toyota Camry ในเบื้องต้น ก็คงจะทำให้มองเห็นภาพแล้วว่า ในบรรดาการใช้งานของเครื่องยนต์แต่ละแบบนั้น มีผลต่ออัตราการประหยัดน้ำมันได้อย่างชัดเจน ซึ่งหากใครที่กำลังมองหารถ Toyota Camry มือสองอยู่ ก็ต้องมาวิเคราะห์กันว่า จะยึดอัตราการประหยัดน้ำมันเป็นหลักโดยที่ไม่ได้กังวลเรื่องราคา แต่หากมีงบประมาณที่จำกัด ก็ต้องเลือกว่า จะยอมใช้รุ่น 2.0 ลิตร หรือ 2.5 ลิตร ที่ไม่ใช่รุ่น Hybrid ซึ่งอัตราการประหยัดพลังงานจะอยู่ในเกณฑ์ทั่วไป หรือจะยอมลดรุ่นปีให้น้อยลง เช่น จากเดิม ต้องการซื้อรุ่นปี 2017 ก็อาจจะต้องขยับเป็นรุ่นปี 2014 – 2015 แทน เพราะมีราคาใกล้เคียงกัน แต่ได้เครื่องยนต์ Hybrid ที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันดีกว่าแทน 

อ่านเพิ่มเติม

>> ผู้ใช้เขาบอกมา ข้อดี-ข้อเสียของรถกระบะ Ford Ranger แล้วจะคุ้มไหมหากซื้อมือสองมาใช้?
>> รีวิวการบรรทุกของด้วยกระบะ Isuzu D-Max จะดีจริงเหมือนโฆษณาหรือไม่

BearsSmiley