สิ่งที่คุณต้องจ่าย เมื่อซื้อรถมือสอง

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 25 ก.ค 2565
แชร์ 80

เมื่อตัดสินใจว่าจะซื้อรถมือสอง คำถามต่อมา คือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องจ่าย นอกเหนือจากราคาตัวรถ สำหรับคนที่ไม่เคยซื้อมาก่อนก็จะได้เตรียมงบประมาณค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ ได้ถูก ซึ่งบางทีค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้ซื้อ ต้องเปลี่ยนใจจากรถคันที่จะซื้อไปเลือกคันอื่นแทนเลยก็ได้

ซื้อรถมือสอง ต้องเสียค่าอะไรบ้าง ? มาดูกันดีกว่าว่าออกรถมือสองเสียค่าอะไรบ้าง นอกจากราคารถที่คุณซื้อจะต้องจ่ายมีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะซื้อรถด้วยเงินสดหรือผ่อนกู้จากไฟแนนซ์

กรณีซื้อรถด้วยเงินสด สิ่งที่คุณจะต้องจ่ายนอกจากราคาตัวรถมีดังนี้

1. ภาษี 7%

ถ้าคุณซื้อรถกับเต็นท์ ภาษีมูลค่าเพิ่มคือสิ่งที่คุณจะต้องจ่ายเพิ่มจากจำนวนค่ารถที่ตกลงไว้ตอนแรกซึ่งไม่ใช่ราคาสุทธิ ยกตัวอย่างเช่น รถมือสองที่คุณกำลังจะซื้อราคา 300,000 บาท บวกกับ Vat 7% ของราคารถเท่ากับ 21,000 บาทดังนั้นราคาค่ารถจริงๆ ที่คุณจะต้องจ่ายจะอยู่ที่ 300,000 + 21,000 = 321,000 บาท

2. ค่าโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ

เมื่อคุณทำสัญญาซื้อขายรถเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนที่จะเปลี่ยนชื่อเจ้าของจากชื่อเจ้าของรถเดิมเป็นชื่อของคุณ โดยค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชื่อกรรมสิทธิ์ซึ่งเรียกว่า “ค่าอากร” จะเทียบจากราคากลางที่กรมขนส่งตั้งไว้อัตราค่าอากรจะอยู่ที่แสนละ 500 บาท ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นรุ่นรถประเมินราคารถอยู่ที่ 200,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์จะอยู่ที่ 1,000 บาท และยังมีค่าโอน ค่าตรวจสภาพรถ ค่าธรรมเนียมอีกนิดหน่อย

การตรวจสภาพรถ
การตรวจสภาพรถก่อนทำการโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของเป็นตอนที่รถทุกคันต้องทำก่อนเปลี่ยนกรรมสิทธิ์รถยนต์

3. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ค่าประกันภัยรถยนต์ ซึ่งตัวเลือกของประเภทประกันภัยก็ตามแต่ลักษณะการใช้รถ ถ้ารถเก่ามากๆ ก็ไม่สามารถทำประกันชั้น 1 ได้ต้องหันไปพึ่งประกันชั้น 2 หรือ 3 ค่าภาษี พ.ร.บ. รายปีที่รถมือสองคันที่คุณกำลังจะซื้ออาจยังไม่ได้ต่ออายุ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องจ่ายเป็นประจำทุกปี ไม่เฉพาะแค่เพียงตอนซื้อรถเท่านั้น

ซื้อรถมือสองด้วยเงินสด
ซื้อรถมือสองด้วยเงินสด ขั้นตอนและค่าใช้จ่ายจะน้อยกว่าซื้อผ่านไฟแนนซ์

กรณีที่ซื้อรถมือสองผ่านไฟแนนซ์

การซื้อรถมือสองด้วยการขอไฟแนนซ์ก็จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มเติม ไม่ง่ายเหมือนซื้อเงินสด ซึ่งค่าใช้จ่ายซื้อรถมือสอง ค่าใช้จ่ายต่างๆ มีดังต่อไปนี้

1. ค่าจอง

เมื่อคุณเจอรถมือสองคันที่ถูกใจแล้วต้องการจะซื้อด้วยการขอไฟแนนซ์ จะมีขั้นตอนดำเนินการซึ่งต้องใช้เวลาตรวจสอบเครดิตของผู้ซื้อก่อนที่สินเชื้อจะอนุมัติเป็นเวลา 3-5 วันทำการแล้วแต่สถาบันการเงิน ดังนั้นในระยะเวลาที่รอสินเชื่ออนุมัตินี้ โดยทั่วไปแล้วเจ้าของรถหรือเต็นท์ก็จะต้องเก็บสิทธิ์ในการซื้อไว้ให้กับคุณ จำเป็นที่จะต้องเก็บค่าจอง เพื่อเป็นการรับประกันว่าคุณจะซื้อรถคันนั้นอย่างแน่นอน ถ้าคุณเปลี่ยนใจไม่ซื้อรถคันนั้นแล้ว ค่าจองนี้ก็จะถูกยึดไป เหมือนกับเป็นค่าเสียโอกาสของทางเต็นท์ที่จะได้ขายรถให้กับคนอื่นในระหว่างที่รอสินเชื่อของคุณอนุมัติ

โดยค่าจองนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 บาท แต่คุณไม่ต้องห่วงว่าเงินจำนวนนี้จะเสียเปล่าเมื่อสินเชื่ออนุมัติแล้ว เงินก้อนนี้จะถูกนำไปหักกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่คุณจะต้องจ่ายเช่น ไปรวมกับเงินดาวน์ เงินค่าจัดไฟแนนซ์รถมือสอง

2. เงินดาวน์

เงินส่วนนี้ของรถมือสองอาจไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ถ้ากรณีที่คุณเครดิตดี กู้ได้เต็มจำนวนเท่าราคาตัวรถคันที่คุณจะซื้อ แต่นั่นก็หมายความว่าจำนวนเงินที่คุณต้องกู้จากไฟแนนซ์ก็มากด้วยเช่นกัน

แต่ถ้าเป็นรถบางรุ่น บางคันที่เป็นรถหรูราคาแพงหรือไม่ใช่รถตลาดก็อาจจำเป็นต้องดาวน์อย่างต่ำ 10% ของราคาตัวรถหรือมากกว่านั้น

3. ค่าจัด ค่าโอน

ค่าดำเนินการในการทำเรื่องขอไฟแนนซ์ของเจ้าหน้าที่จากไฟแนนซ์ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ผู้เขียนเคยมีบทความเกี่ยวกับเรื่อง “รถมือสอง ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก โปรโมชั่นชวนซื้อที่ต้องดูให้ดีก่อนตัดสินใจ!!” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่คุณจะต้องตกลงให้ชัดเจนกับผู้ขายประเภทเต็นท์รถว่า ค่าจัดไฟแนนซ์นี้มีอะไรบ้างต้องแยกมาให้ชัดเจน เพราะอาจเป็นช่องทางที่เต็นท์รถไร้จรรญาบรรณฉวยโอกาสเก็บเงินในส่วนนี้มากกว่าความเป็นจริง

บางเต็นท์รถมีโปรโมชั่นค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็อาจไม่จำเป็นต้องเสียก็ได้อยู่ที่ตกลงกันตั้งแต่ตอนแรกก่อนตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าคุณไม่คุยรายละเอียดให้ดีตั้งแต่แรกก่อนจะทำเรื่องขอไฟแนนซ์ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ที่คุณต้องจ่าย พอเปิดราคาออกมาก็อาจทำให้คุณตกใจได้ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นก็มีต้องระวังให้ดี

ค่าโอนที่ถูกคิดจากไฟแนนซ์ ต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน
ค่าโอนที่ถูกคิดจากไฟแนนซ์ ต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสอง

ค่าดำเนินการต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ของไฟแนนซ์เดินเรื่องให้มีตั้งแต่ นำเอกสารไปตรวจสอบเบื้องต้น สู่ขั้นตอน checker ไปตรวจสอบบ้าน ที่ทำงานของผู้ขอสินเชื่อและผู้ค้ำ จากนั้นรายงานก็จะมาอยู่ที่ฝ่ายอนุมัติสินเชื่อเพื่อเอาหลักฐานรายงานต่างๆ รวบรวมตรวจสอบก่อนจะอนุมัติสินเชื่อ เมื่ออนุมัติแล้วก็จะต้องมีการตรวจสภาพรถและออกเช็คให้กับผู้ขายหรือเต็นท์รถ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

เข้าดู รถยนต์มือสอง ได้ที่นี่

ค่าโอนต้องโอนสองต่อ

  1. ค่าโอนของการซื้อรถผ่านไฟแนนซ์ รถจะยังไม่ใช่สิทธิ์ของคุณแต่คุณจะเป็นเพียงแค่ ผู้ครอบครองเท่านั้น กรรมสิทธิ์ต่างๆ จะเป็นของไฟแนนซ์ ค่าใช้จ่ายในส่วนของการโอนจากเจ้าของเดิมมาเป็นของไฟแนนซ์ เมื่อคุณผ่อนครบจำนวนงวดก็จะโอนต่อเป็นชื่อของคุณ
  2. ตามที่กล่าวในด้านบน ค่าโอนขนส่งคิดตามราคาของรถคือแสนละ 500 บาทสมมุติรถราคา 500,000 ค่าอากรในการโอนจะเท่ากับ 2,500 บาทโอนสองต่อจะรวมเป็น 5,000 บาท เป็นต้น

4. ค่าประกันภัยรถยนต์

เมื่อขอสินเชื่อกับไฟแนนซ์ ทางไฟแนนซ์จะบังคับให้ทำประกันภัยรถยนต์ในปีแรกของการผ่อนชำระค่างวด ถ้ารถมือสองคันที่ซื้อมีประกันอยู่แล้ว ทางไฟแนนซ์จะดูว่าเหลือประกันรถยนต์อยู่นานแค่ไหนถ้าไม่ถึง 6 เดือนจะบังคับให้ทำใหม่ตั้งแต่วันที่รับรถ ซึ่งบางเต็นท์อาจมีโปรโมชั่นแถมประกันให้ด้วยต้องคุยให้ดีก่อนตกลงซื้อ

5. ดอกเบี้ยจากสินเชื่อ

เมื่อสินเชื่ออนุมัติผ่าน ค่ารถที่คุณจะต้องจ่ายผ่อนชำระสามารถจ่ายได้ตั้งแต่วันรับรถหรือตามระบุไว้ในสัญญา ไปทุกเดือนตามจำนวนงวด ซึ่งได้รวมดอกเบี้ยจากสินเชื่อไปแล้วตามเงื่อนไขที่ไฟแนนซ์ระบุ ถ้าผ่อนยาว ผ่อนนานจำนวนงวดเยอะดอกเบี้ยก็จะแพงเป็นเงาตามตัว แต่ผ่อนงวดน้อยก็จะช่วยลดค่าดอกไปได้เป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว

ถามว่าส่วนของ VAT 7% นี้ซื้อรถโดยไฟแนนซ์คุณจะยังต้องจ่ายหรือเปล่า แน่นอนว่าคุณจะยังต้องจ่ายอยู่โดยค่าภาษีจะรวมอยู่ในค่างวดที่คุณจ่ายไปทุกเดือนหลังจากรวมค่าค่ารถ ค่าดอกเบี้ยก็บวกไปอีก 7% นั่นแหละคือค่าภาษีที่คุณจะต้องจ่าย

ค่าใช้จ่ายต่างๆ เมื่อซื้อรถมือสองจะเห็นว่า การซื้อผ่านไฟแนนซ์จะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากราคารถจริงๆ  ที่คุณอาจต้องจ่ายไป อยู่ไม่น้อย เลยทีเดียวจึงขอแนะนำว่าถ้าซื้อรถมือสองเป็นไปได้ควรซื้อเงินสดดีที่สุด แต่ถ้าจำเป็นต้องซื้อผ่านไฟแนนซ์ก็เลือกเต็นท์ดีๆ มีการชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ชัดเจน ไม่หมกเม็ดเพิ่มค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ชี้แจงไม่ได้ ถ้าไม่ชัดเจนก็ให้หาผู้ขายเจ้าอื่นดีกว่าที่จะเสียเงินไปเปล่าๆ ฟรีๆ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเสียก็ได้ เต็นท์หรือผู้ขายดีๆ มีคุณภาพคอยให้บริการมีอยู่เยอะในตลาดรถมือสองเมืองไทย ค่อยๆ เลือกไม่ต้องรีบเพราะอย่างน้อยการตัดสินใจซื้อรถคันนึงผ่านไฟแนนซ์จะต้องอยู่กับคุณไม่ต่ำกว่า 3 ปีถ้าคุณไม่ขายรถก่อนนะ