เริ่มแล้ว! ตรวจจริง-จับจริง-ปรับจริง รถซิ่ง ควันดำ ลดฝุ่น PM2.5

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 29 ม.ค 2562
แชร์ 1

หลังจากที่ปัญหาหมอกควันทั่วกรุงเทพฯ เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการดำเนินชีวิต ประชาชน จึงเริ่มเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการ หรือบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมปัญหาฝุ่นควันดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ตำรวจก็เริ่มเอาจริงเอาจังกับปัญหานี้มากขึ้น โดยเริ่มมีการตรวจจับรถควันดำตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม

เริ่มตรวจ - จับ - ปรับ รถควันดำ ดำเนินมาตรการควบคุมรถไม่ได้มาตรฐาน หวังลดฝุ่นพิษ PM2.5

เริ่มตรวจ - จับ - ปรับ รถควันดำ ดำเนินมาตรการควบคุมรถไม่ได้มาตรฐาน หวังลดฝุ่นพิษ PM2.5

มาตรการเกี่ยวกับการงดใช้รถยนต์ หรือยานพาหนะที่มีควันดำนั้นได้มีพระราชบัญญัติออกมา 2 ฉบับ ได้แก่ฉบับปี พ.ศ.2522 และพ.ศ.2535 แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้นำมาปฏิบัติอย่างจริงจังเท่าไรนัก จนกระทั่ง 3 ปีที่ผ่านมาก็เริ่มมีการระบุโทษ และออกกฎหมายอย่างจริงจัง โดยระบุหากพบว่านนำรถควันดำมาใช้จะระวางโทษข้อหานำรถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ได้มาตรฐานก่อให้เกิดมลพิษมาวิ่งในทางปรับสูงสุด 500 บาท สำหรับรถยนต์ธรรมดา ส่วนรถบรรทุกปรับไม่เกิน 5,000บาท โดยจะติดสติกเกอร์ห้ามใช้รถชั่วคราวจนกว่าเจ้าของจะนำไปปรับปรุง และนำเข้ามาตรวจสภาพอีกครั้งภายในเวลา 30 วัน ซึ่งก็มีข่าวคราวถึงการจับ และปรับออกมาเรื่อยๆ และในปีนี้ที่มีปัญหาฝุ่นละอองหนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภาครัฐก็ได้ออกมาตรการอย่างเต็มที่

ดูเพิ่มเติม
>> มาดูกันดีกว่าว่า "รถยนต์ของเรานั้น มีส่วนในการสร้างมลพิษ จริงหรอ" ???
>>
 ฝุ่นพิษอาจส่งผล ดัน“ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า” สดใส

ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศเริ่มมีปัญหาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 และทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศเริ่มมีปัญหาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 และทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

เนื่องด้วยปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ PM2.5 เป็นสารพิษที่เกิดจากการเผาไหมที่ไม่สมบูรณ์จากท่อไอเสียรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงควันบุหรี่ มีส่วนประกอบของปรอท แคดเมียม และสารอื่น ๆ อีกมากมาย มองไม่เห็น ไม่มีกลิ่น แต่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างหนัก หากฝุ่นชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายทางโพรงจมูก จะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดในสมอง และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ จากการตรวจวัดในจุดตรวจทั่วกรุงเทพ พบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนอยู่หลายจุด โดยจุดส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ย่านเขตเมืองและย่านเศรษฐกิจ ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนนี้ เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก ๆ แม้แต่หน้ากากอนามัยที่เราใช้กันในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถป้องกันได้เกือบ 100% สิ่งที่น่ากลัวก็คือ พบว่ามีการตรวจพบฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานสูงมาก (ที่กำหนดไว้คือไม่ควรเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) แต่เชื่อหรือไม่ว่าบางจุดมาสูงถึง 116 ลูกบาศก์เมตรเลยทีเดียว

สาเหตุของการเกิดมลพิษทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ถือว่าเป็นวิกฤติหนักได้แก่สภาพการจราจรที่หนาแน่น ในแต่ละวันนั้น มีการใช้รถยนต์จำนวนมากและมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการสัญจรอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้เกิดมลพิษเพิ่มขึ้นทุก ๆ นาที นอกจากนี้โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ยังเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองชั้นดี ยิ่งทุกวันนี้กรุงเทพมีการก่อสร้างหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการขุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ก่อสร้างอาคาร ขุดถนน ทำท่อระบายน้ำเป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นบ่อเกิดปัญหามลพิษทางอากาศที่กระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในทุกวัน โดยไม่เพียงแต่กระทบในพื้นที่กรุงเทพเท่านั้น ปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 ยังเกิดขึ้นกับจังหวัดปริมณฑล และในหัวเมืองใหญ่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอีกด้วย

ไม่เพียงแต่รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้นที่ปล่อยควันดำ แต่รถขนส่งสาธารณะก็มีการปล่อยควันดำเช่นกัน

ไม่เพียงแต่รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้นที่ปล่อยควันดำ แต่รถขนส่งสาธารณะก็มีการปล่อยควันดำเช่นกัน

ช่วงต้นปีนี้จึงได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมากขึ้น โดยที่นครปฐมได้มีการนำชุดตรวจควันดำและค้นหาสิ่งผิดกฎหมายเข้าตั้งจุดตรวจแบบสุ่มสกัดและจับกุมยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐานหลังจากเกิดฝุ่นละอองมลพิษ PM2.5 เกินค่ามาตรฐานเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 62 เวลา 10.30 น. ที่ กองบัญชาการควบคุมกองรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครปฐม และกลุ่มวิชาการขนส่งจังหวัดนครปฐมถนนเพชรเกษมฝั่งมุ่งหน้าจังหวัดราชบุรี ต.วังเย็น อ.เมือง จ.นครปฐม

พันโทอรรณพ ชอบประดิษฐ์ ผบ.ร้อยรส. จังหวัดนครปฐม เผยว่า “การตั้งจุดตรวจยานพาหนะดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และกองทัพบกได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งจังหวัดนครปฐมมีค่าเกินมาตรฐานไม่ห่างจากกรุงเทพมหานคร โดยเน้นยานพาหนะทุกชนิดโดยเฉพาะรถบรรทุกและรถโดยสารประจำทาง ซึ่งพบควันดำเกินค่ามาตรฐานจำนวนมาก และยังพบในกลุ่มรถกระบะแต่งซิ่ง ที่มีการดัดแปลงเครื่องจากรถใหม่ทำให้เครื่องแรงและก่อให้เกิดควันดำเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจอย่างเข้มงวดและจับกุมจริง นอกจากนี้ยังจะตรวจค้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดด้วยโดยวันนี้การสุ่มตรวจมีการตรวจรถบรรทุกและรถโดยสาร 50 คันและรถยนต์ส่วนบุคคล 20 คัน”

อีกด้านนางกนกเนตร เนตรน้อย หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่งจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “สำหรับการเข้มตรวจจับจะใช้เครื่องมือตรวจควันดำโดยจะต้องไม่เกินค่ามาตรฐานที่ 50 พีพีเอ็ม หากพบจะมีการปรับ 1 พันบาท ส่วนรถซิ่งที่ดัดแปลงสภาพจะมีการปรับตามพ.ร.บ.ต่าง ๆ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมและกรมขนส่งทางบก โดยการสุ่มตรวจสภาพรถร่วมกับหลายหน่วยงานวันนี้พบรถกระบะแต่งซิ่งมีค่า 100 พีพีเอ็ม หลายคันซึ่งได้สั่งปรับและประชาสัมพันธ์ให้ไปดำเนินการไปปรับสภาพรถให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป”

ตำรวจเริ่มดำเนินมาตรการตรวจจับควันดำอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยในสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองดีขึ้น

ตำรวจเริ่มดำเนินมาตรการตรวจจับควันดำอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยในสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองดีขึ้น

ในกรุงเทพฯ เองก็มีคำสั่งให้ตั้งด่าน เพื่อตรวจจับรถควันดำอีกถึง 20 จุดตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 โดยพลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะผู้ดูแลงานด้านการจราจร เปิดเผยถึงการเพิ่มมาตรการตั้งจุดตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ควันดำจำนวน 20 ด่านตรวจทั่วกรุงเทพฯ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานคร โดยจากการรายงานผลการตั้งด่านตรวจวันแรกพบว่ามีรถที่มีควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดรวมแล้วกว่า 1,000 คัน

ทั้งนี้ พลตำรวจตรี จิรสันต์ กล่าวเสริมว่าจากข้อมูลที่ได้มาพบว่าเครื่องยนต์ดีเซล และรถที่มีอายุการใช้งานนานถูกจัดให้เป็นสาเหตุของปัญหาฝุ่นละอองถึงร้อยละ 60 ในเบื้องต้นได้สั่งการให้ตำรวจเพิ่มการตั้งจุดตรวจให้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีมลพิษมาก เช่น บึงกุ่ม และจตุจักร เพื่อให้ผู้ขับขี่ใส่ใจปัญหาควันดำ และในอนาคตอาจเพิ่มมาตรการยึดรถหรือพักใช้รถ ซึ่งเป็นการบังคับใช้กฎหมายที่แรงขึ้น ขณะเดียวกัน พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ ได้สั่งการโดยให้ทุกหน่วยถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 15 มกราคมเป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ดูเพิ่มเติม
>>
 มลพิษฝุ่นควันใน กทม. เกิดจากเครื่องยนต์ดีเซล มาตรการแก้ไขควรเป็นแบบใด
>>
 บีโอไอไฟเขียวเอกชน ติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ 3,000 แห่งทั่วประเทศ

การลดปัญหาฝุ่นละอองไม่ใช่เรื่องที่ภาครัฐจะดูแลอย่างเดียวเท่านั้น แต่เราทุกคนควรลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อลดปัญหาอีกทางหนึ่งนะคะ

การลดปัญหาฝุ่นละอองไม่ใช่เรื่องที่ภาครัฐจะดูแลอย่างเดียวเท่านั้น แต่เราทุกคนควรลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อลดปัญหาอีกทางหนึ่งนะคะ

จากการดำเนินมาตรการนี้จะเห็นได้ว่ามีการปรับค่าปรับของรถยนต์ที่มีควันดำให้สูงขึ้นจากปี 2016 ที่มีโทษปรับสูงสุด 500 บาท มาเป็น 1,000 บาท แต่ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการดำเนินมาตรการนี้เพื่อลดปริมาณฝุ่นควัน PM2.5 ในจังหวัดใดบ้าง และจะได้ผลหรือไม่ นอกจากนี้รัฐบาลจะออกมาตรการอะไรออกมาเพื่อรองรับปัญหาฝุ่นควันระยะยาวอย่างไรบ้าง หลังจากปัญหานี้เราอาจจะเห็นมาตรการเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และการปรับปรุงรถขสมก.ที่ไม่ได้มาตรฐานกันมากขึ้นนะคะ สำหรับข่าวสารเรื่องราวเกี่ยวกับรถแบบอัพเดท สามารถติดตามได้ที่ Chobrod.com นะคะ

>> บางทีคุณอาจสนใจ รถกระบะแต่ง

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถกระบะมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้