เจาะประเด็นร้อน! ย้อนดูความขัดแย้ง แกร็บ-แท็กซี่ไทย ใครกันแน่ที่เป็นปัญหา?

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 28 มิ.ย 2562
แชร์ 1

วิเคราะห์ปมขัดแย้งระหว่างแกร็บกับแท็กซี่ไทย อะไรคือสาเหตุของการเกิดปัญหา เจาะลึกที่มาและไขข้อสงสัยที่ทุกคนอยากรู้คำตอบ ว่าแท็กซี่เองสามารถเข้าร่วมแกร็บได้ง่าย ๆ แล้วทำไมถึงไม่ทำ? มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอย่างนั้นเหรอ? มาร่วมหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันกับ Chobrod.com

เป็นกระแสที่มีการพูดถึงกันอย่างเผ็ดร้อน กับกรณีที่ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะหลายหน่วยงานออกมาขัดค้านกับการสนับสนุนแอพพลิเคชั่นเรียกรถออนไลน์ให้กลายเป็นบริการที่ถูกกฎหมาย ซึ่งประเด็นนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์ มีหลายเสียงที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหานี้ ทั้งจากผู้ให้บริการที่เป็นฝ่ายได้ประโยชน์ก็ดี ฝ่ายที่มองว่าตนเสียประโยชนก็ดี รวมไปถึงผู้ที่เป็นสื่อกลางอย่างผู้เลือกใช้บริการด้วยเช่นกัน ที่ออกมาถกกันถึงปัญหานี้กันอย่างดุเดือด ทั้งที่ใช้หลักการเข้าว่าหรืออารมณ์เข้าร่วมก็ตามที

 เจาะประเด็นร้อน! ย้อนดูความขัดแย้ง แกร็บ-แท็กซี่ไทย ใครกันแน่ที่เป็นปัญหา?

 เจาะประเด็นร้อน! ย้อนดูความขัดแย้ง แกร็บ-แท็กซี่ไทย ใครกันแน่ที่เป็นปัญหา?

มาวิเคราะห์เจาะลึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายใต้ความไม่เข้าใจนี้ ว่าที่มาของการออกมาต่อต้าน และสาเหตุการไม่สนับสนุนหรือเข้าร่วมกับบริการออนไลน์ที่กำลังจะถูกผลักดันให้กลายเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายจากกลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มหนึ่ง มีเหตุผลและเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร พร้อมแตกประเด็นถึงประวัติที่เคยเกิดปัญหาความขัดแย้งก่อนหน้านี้ มีฝ่ายที่กำลังถูกเอาเปรียบใช่หรือไม่ รวมไปถึงสถานการณ์ที่จะต้องเตรียมรับมืือต่อจากนี้ด้วย ทุกอย่างที่กำลังจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของฝ่ายหนึ่งกำลังจะกลายเป็นจุดสิ้นสุดของอีกฝ่ายหรือไม่ มาวิเคราะห์กันดู

แกร็บถูกกฎหมายใครได้ ใครเสีย?

รถแดงเชียงใหม่เรียกร้อง โดนแกร็บแย่งลูกค้า

รถแดงเชียงใหม่เรียกร้อง โดนแกร็บแย่งลูกค้า

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราเห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลหนึ่งที่ออกมาเรียกร้องนั่นคือกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่นี่ผู้เป็นตัวหลักในการดำเนินการออกมาต่อต้าน ตามด้วยสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยนต์แห่งประเทศไทย ที่ออกมาประท้วงแทบในทันทีเมื่อข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปเป็นวงกว้างโดยเข้าบุกกรมขนส่งทางบกเรียกร้องให้พิจารณาและทบทวนถึงนโยบายการสนับสนุนแกร็บให้ถูกกฎหมาย นอกจากนี้ที่เชียงใหม่เองก็ออกมาต่อต้านเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมขู่หากไม่ได้ดังใจจะจัดตั้งรวบรวมรถแดงกว่าสองพันคันออกมาสร้างกระแสกดดันหน่วนงานที่เกี่ยวข้องอย่างไม่ลังเล

ย้อนดูประวัติความขัดแย้ง ใครกันแน่ที่เป็นปัญหา?

ที่ผ่านมาข่าวสารบ้านเราทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์หรือบนโลกออนไลน์ นำเสนอข่าวเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดความขัดแย้งระหว่างทางแกร็บกับทางบริการขนส่งสาธารณะเหล่านี้ที่ออกมาประท้วงกับมาเป็นประเด็นให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่บ่อยครั้ง หลายครั้งปัญหาถูกแก้ด้วยการใช้กำลังและความรุนแรง ตามด้วยผลกระทบที่ตกไปอยู่แก่ทุกฝ่าย

ที่ผ่านมาพบปัญหาการออกมาประท้วงเรื่องแกร็บอยู่บ่อยเป็นประจำ

ที่ผ่านมาพบปัญหาการออกมาประท้วงเรื่องแกร็บอยู่บ่อยเป็นประจำ

ในตามหลักตามความเป็นจริงต้องยอมรับว่าแกร็บเป็นบริการที่ผิดดฎหมาย การนำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถรับจ้างมาใช้ประกอบธุรกิจแน่นอนเป็นเรื่องที่นับว่าไม่ถูกต้อง และนั่นเป็นจุดบอดของแกร็บที่กลายมาเป็นคำกล่าวอ้างหลักที่ผู้ให้บริการรายอื่นออกมาใช้เป็นข้อพิพาทและตัดสินว่าการใช้บริการแกร็บเป็นเรื่องที่ผิดและเอาเปรียบฝ่ายที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย และเกิดความขัดแย้งให้เป็นประเด็นทางสังคมให้ถกเถียงกันอยู่แทบทุกครั้ง

การใช้กำลังและสร้างความกดดันด้วยความรุนแรงคือการแก้ปัญหาที่ถูกต้องแล้วหรือ?

แต่การที่อีกฝ่ายทำผิดกฎหมายก็ถูกการตัดสินด้วยความรุนแรงหรือการทะเลาะเบาะแว้งที่สร้างความเสียหายต่อกันด้วยความรุนแรงกลับแทบทุกครั้ง อย่างเช่นการชกต่อย การด่าทอ การสร้างภาวะการกดดันด้วยกันปิดล้อม นั่นทำให้สังคมตั้งคำถามแก่พวกเขาว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่ หลายคนมองว่าการตัดสินและลงโทษคนที่ทำผิดกฎหมายด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเรื่องที่สร้างปัญหามากกว่าจะแก้ปัญหา ซึ่งการใช้อารมณ์เข้ามามีส่วนในการตัดสินส่งผลให้ผู้ปฏิบัติขาดความยั้งคิดและก่อปัญหาตามมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 

ดูเพิ่มเติม
>> Grab ถูกกฎหมาย ใกล้เป็นจริงแล้ว กรมขนส่งเตรียมแก้กฎหมายใหม่ รถส่วนตัวมีเฮ

>> แดงเดือด! สองแถวเชียงใหม่กว่า 2 พันคันขู่ตั้งม็อบประท้วงค้านแกร็บถูกกฎหมาย

ผิดกฎหมายแต่ดี กับถูกกฎหมายแต่แย่ เป็นคุณจะเลือกอะไร?

คนไทยสนับสนุนบริการที่ผิดกฎหมายอย่างนั้นเหรอ? สิ่งนั้นเป็นคำถามที่สร้างการถกเถียงและแบ่งคนออกไปเป็นสองฝ่าย ส่วนหนึ่งมองว่าแกร็บเองสร้างปัญหาทำลายระบบขนส่ง เพราะตามกฎหมายแล้วรถที่นำมาวิ่งรับจ้างต้องจดทะเบียนและมีการคิดค่าโดยสารตามวิธีการจากขนส่ง อีกทั้งผู้ให้บริการบางคนไม่มีใบอนุญาตการขับขี่ รวมไปถึงเรื่องของขนาดรถซึ่งพบปัญหานี้ในผู้ขับขี่แกร็บหลายคน

การเลือกใช้บริการขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริโภค

การเลือกใช้บริการขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริโภค

ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าในเมื่อผู้ที่ติดสินใจเลือกใช้บริการก็คือเราเอง และการสนับสนุนแกร็บก็มีที่มาที่ไป เพราะการเลือกใช้สินค้าหรือบริการอะไรสักอย่าง หากมีมากกว่า 1 ตัวเลือก แน่นอนว่าย่อมมีการเปรียบเทียบ ก่อนที่คนจะติดสินใจเลือกใช้บริการอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าเขาย่อมศึกษาหรือพิจารณาว่าอะไรดี อะไรเหมาะสมต่อตัวเองก่อนเสมอ หากลองมองย้อนกลับไปดูจะเห็นได้ชัดเจนว่าในขณะที่ทางแท็กซี่ต่อต้านแกร็บ ประชาชนบางส่วนก็ต่อต้านแท็กซี่เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าแกร็บจะผิดกฎหมายแต่ผู้ใช้บริการกลับพึงพอใจกับการบริการมากกว่าด้วยหลากปัจจัย ซึ่งปัจจัยที่ดีเหล่านั้นหลายคนไม่ได้รับมาจากบริการที่ถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร ค่าโดยสารที่ชัดเจนและซื่อตรง ความปลอดภัยที่ทางแกร็บให้ความสำคัญเป็นหลัก มีการตรวจสอบประวัติต่าง ๆ ของผู้ขับขี่ แกร็บไม่ปล่อยให้ผู้มีคดีได้ลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นสมาชิก และขั้นตอนการตรวจสอบที่ละเอียดและเด็ดขาดเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ทางขนส่งให้ความสำคัญได้ไม่เท่าและไม่ครอบคลุม เรียกได้ว่าหละหลวม หลายครั้งที่สังคมตั้งคำถามกับระบบตรวจสอบคัดกรองคนขับแท็กซี่จากขนส่ง เมื่อพบผู้ทำผิดกฎหมายเหลือก่อคดีอันไม่สมควรมาหลายครั้งแต่ก็ยังประกอบอาชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่ได้ต่อ ซึ่งข้อเปรียบเทียบที่เห็นได้ชัดเจนข้อนี้ทำให้ผู้เลือกใช้บริการตัดสินใจได้ไม่ยากเลย

เปลี่ยนเป็นถูกกฎหมายและดีกับถูกกฎหมายแต่ยังแย่ ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น

เมื่อแกร็บจะถูกผลักดันให้เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อทั้งตัวผู้ให้บริการเองและผู้ใช้บริการ ที่จะได้รับการบริการที่ดี รวดเร็ว ซื่อตรง ปลอดภัยและสบายใจในทุกการเดินทาง การสร้างธุรกิจที่เป็นทางเลือกที่ดีให้แก่ประชาชนนอกจากจะดีต่อทางผู้ให้และผู้ใช้บริการแล้วยังช่วยส่งเสริมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจนถึงเรื่องของภาคเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่สมดุลได้ โดยการทำให้ถูกกฎหมายนั้น ทางออกที่ดีก็คือการทำทุกอย่างให้ถูกหลักอย่างที่ควรจะเป็น คือการนำรถไปจดทะเบียน และทางผู้ขับขี่เองก็ควรไปทำใบอนุญาต ซึ่งหากทางแกร็บเองมีการจัดการให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ควร ข้อโต้แย้งที่ทางกลุ่มผู้ประกอบการเดิมนำมาใช้โจมตีนั้นอาจจะตกหล่นไปได้ในที่สุด

เรื่องการเอาเปรียบผู้โดยสารของแท็กซี่ไทยเป็นที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลก

เรื่องการเอาเปรียบผู้โดยสารของแท็กซี่ไทยเป็นที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลก

ขณะเดียวกันถ้าแกร็บกลายเป็นบริการที่ถูกกฎหมาย แต่ฝ่ายที่คัดค้านเองยังไม่ยอมปรับตัวให้บริการในระดับที่เรียกว่าเป็นปัญหาแก่ผู้ใช้บริการ คาดว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นระยะยาวเป็นแน่ ยิ่งเมื่อเกิดการต่อต้านโดนลืมมองย้อนกลับไปยังสาเหตุที่แท้จริง อย่างเช่นพฤติกรรมที่ผ่านมาที่เคยถูกร้องเรียนอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นความไม่โปร่งใส การเลือกรับผู้โดยสาร เลือกเส้นทาง และอีกหลาย ๆ อย่างที่ผู้ให้บริการรถขนส่งสาธารณะไม่ควรปฏิบัติ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เองเป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้การถูกเลือกใช้บริการลดลงไปจนสังเกตได้ชัด

ทำให้ถูกกฎหมายแล้ว ทำไมถึงไม่เข้าร่วมและสนับสนุน?

หากจะให้ลองวิเคราะห์ว่าเพราะอะไรที่แท็กซี่ไทยถึงมองว่าแกร็บกำลังทำให้ตนเองกำลังสูญเสียผลประโยชน์ทั้ง ๆ ที่ทางการกำลังจะผลักดันให้แกร็บถูกกฎหมายและเสียภาษีเช่นเดียวกัน เราอาจต้องแจกแจงออกมาเป็นข้อ ๆ เอาไว้ดังนี้

  • มองย้อนกลับไปตั้งแต่เรื่องการกำหนดขนาดของรถโดยสารที่ทางกฎหมายกำหนดเอาไว้ว่า รถที่จะจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างสาธารณะนั้นต้องมีขนาด 1,500 CC ขึ้นไป แต่รถที่ใช้สำหรับแกร็บในปัจจุบัน เราพบว่ามีหลายคันที่เป็นรถขนาดต่ำกว่ามาตรฐานโดยมีราคาการซื้อการผ่อนที่ถูกกว่ามาก รวมไปถึงเรื่องของค่าประกัน แท็กซี่จึงมองว่าในขณะที่ตนเสียเงินจำนวนที่สูงกว่าเพื่อทำธุรกิจของตนให้ถูกต้องตามหลักกฎหมาย อีกฝ่ายกลับเข้ามาหาประโยชน์ในแนวทางเดียวกันแต่ลงทุนน้อยกว่าและจะได้รับการส่งเสริมอีก แค่นี้ก็ขัดแย้งแล้วเหมือนตนถูกเอาเปรียบอย่างเห็นได้ชัดเพราะแค่เริ่มต้นก็เห็นได้ชัดแล้วว่าต้นทุนที่มาแตกต่างกัน
  • ทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้นเป็นการกระจายรายได้ ทำให้รายรับที่ควรได้ถูกแบ่งออกไป จากที่เคยได้ในจำนวนที่พึงพอใจ กลับต้องถูกแบ่งรายได้ส่วนนี้ให้กับบริการอื่น ๆ ที่เพิ่งมีเข้ามา
  • มองว่าเป็นการสนุบสนุนทุนต่างชาติ อยากให้เห็นใจและช่วยเหลือธุรกิจของประเทศตนเองมากกว่า

หลากหลายวีรกรรมของแท็กซี่ ที่ต้องยอมรับว่ามีส่วนทำให้หลายคนเลือกไปใช้บริการอย่างแกร็บแทน

หลายคนอาจตั้งคำถามว่าทำไมการผลักดันของแกร็บถึงทำให้คนบางกลุ่มต้องเดือดร้อน ทั้ง ๆ ที่บริการนี้ไม่ได้จำกัดผู้ใช้งานสักหน่อยว่าห้ามแท็กซี่มาขับแกร็บ มีรายงานข้อมูลเอาไว้มีว่ารถแท็กซี่กว่า 60,000 คันได้เข้าร่วมกับแกร็บและของไลน์แท็กซี่ จากทั้งหมด 80,000 คัน และอีก 20,000 คันที่ไม่เข้าร่วม ซึ่งเป็นจำนวนของผู้ที่กำลังจะเสียผลประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ 

คำถามคือ ทำไมอีก  20,000 คันถึงไม่เข้าร่วม? 

ทางสมาคมแท็กซี่ได้อธิบายและให้เหตุผลว่า จำนวนของผู้ขับแท็กซี่ดังกล่าวที่ไม่เข้าร่วมกับทางแกร็บหรือบริการไลน์แมนนั้นเกี่ยวข้องกับระบบของอายุรถที่ใช้งานและอายุของคนที่แก่เกินจะใช้งานเทคโนโลยี

เบื้องหลังที่แท้จริงของการต่อต้านและไม่เข้าร่วม

ทางโลกออนไลน์ให้ความสนใจถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

ทางโลกออนไลน์ให้ความสนใจถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

ในโลกโซเชียลได้ตั้งคำถามขึ้นมาถึงเรื่องนี้ว่าทำไมแท็กซี่ที่มีปัญหาไม่ยอมปรับตัวเข้าร่วมกับทางแกร็บ ทั้งที่เป็นทางที่จะตอบโจทย์ให้แก่ทุกฝ่ายได้อย่างลงตัว ซึ่งก็มีผู้แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากและเราก็ได้คำตอบที่ทำให้กระจ่างจากผู้ใช้งานบัญชีเฟสคนหนึ่งที่ระบุว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติอาชญากรในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้ให้คำตอบกับเรื่องเอาไว้โดยสรุปใจความได้ว่าดังนี้

ตามระเบียบการเข้าร่วมแกร็บ คนขับจะต้องขอเอกสารรับรองประวัติ ซึ่งหลายคนมีประวัติติดตัวและนั่นทำให้แกร็บพิจารณาให้บุคคลดังกล่าวไม่เข้าหลักเกณฑ์ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมกับบริการของแกร็บได้ และอีกหนึ่งเหตุผลคือไม่อยากทำเอกสารใด ๆ ให้ยุ่งยาก เพราะคงมองว่าเป็นเรื่องที่จัดการได้ยากและใช้เวลา ซึ่งในความตริงการดำเนินการดังกล่าวนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงไปที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้เวลาเพียง 15 นาทีและเสียค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 100 บาทเท่านั้นเอง

ดังนั้นจึงคาดการณ์ได้ว่ากว่าจำนวน 20,000 คันของแท็กซี่ที่ไม่ได้เข้าร่วมกับแกร็บส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าร่วมกับบริการดังกล่าว เมื่อมองอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เราอาจต้องกลับมาตั้งคำถามอีกแง่ว่าสำหรับคนที่เคยทำผิดหรือมีประวัติ จะสูญเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปโดยแก้ไขอะไรไม่ได้หรือไม่ หากว่าเขาเป็นคนที่กลับตัวแล้ว แต่อดีตที่ผิดพลาดจะกลายเป็นข้อจำกัดให้เขาได้รับโอกาสไม่เท่าคนอื่นอย่างนั้นหรือเปล่า? เรื่องนี้อาจจะต้องมองในหลาย ๆ มุม ซึ่งคิดว่าการปรับตัวและพัฒนาในการให้บริการอาจเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด

การยอมรับ ปรับตัว และปรับปรุงการให้บริการอาจเป็นทางออกทีดี่ที่สุด

ปัญหาของแท็กซี่เป็นเรื่องที่หมักหมมสะสมมาอย่างยาวนาน ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มองว่ามาจากการที่ทางแท็กซี่เองไม่ยอมปรับตัว คอยแต่เรียกร้องให้ตนไปฝ่ายได้ ซึ่งปัญหาเรื้อรังไม่ได้รับการแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร ระบุว่าปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารไม่สามารถแก้ได้ตราบใดที่รัฐบาลไม่จัดการปัญหาเรื่องการกำหนดค่าโดยสารที่เหมาะสมโดยให้เหตุผลการปฏิเสธผู้โดยสารเอาไว้ว่าเป็นเพราะมีการพิจารณาเส้นทางดูแล้วว่าไม่คุ้มทุน ซึ่งมักจะมีข้อเรียกร้องออกมาต่อรองอยู่เสมอซึ่งที่ผ่านก็ไม่ได้รับการแก้ปัญหาที่น่าพึงพอใจ

ทางออกความขัดแย้ง วิน-แท็กซี่-แกร็บ ? 

เมื่อการก้าวเข้ามาของแกร็บไม่ได้เข้ามาเพียงเพื่อสร้างข้อต่อรองกับทางกลุ่มผู้บริการกลุ่มเดิม แต่เข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการขนส่งที่จะกลายเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้คุณภาพชีวิต และการดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นไปได้ง่ายขึ้น และถ้าหากสุดท้ายแล้วการแก้ไขปัญหาที่ทางกลุ่มแท็กซี่ออกมาเรียกร้องไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมดคงถึงเวลาที่ทางกลุ่มของแท็กซี่เองที่ต้องปรับตัวและพัฒนาการให้บริการของตนเองและมองหาทางออกต่อไป

หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับว่าทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีแผนการรับมืออย่างไรด้วยเช่นกัน เพราะในบางจุดมันมีข้อสังเกตให้เห็นได้อย่างชัดเจนจริง ๆ ว่ามีการเสียเปรียบในเรื่องของต้นทุนที่เริ่มต้นต่างกัน  ต้องมารอดูว่าหากแกร็บจะถูกผลักดันให้ถูกกฎหมายนั้น จะต้องยอมรับหรือกำหนดมาตรการอะไรใหม่หรือไม่ เพื่อให้สุดท้ายแล้วเป็นการหาทางออกที่เป็นการแก้ปัญหาจริง ๆ ไม่ได้มาเป็นปัญหาใหม่ที่อาจจะพบช่องโหว่ให้เกิดการต่อต้านโจมตีจากฝ่ายคัดค้าน และเกิดเป็นปัญหาขัดแย้งขึ้นมาอีกอย่างไม่รู้จบ 

ดูเพิ่มเติม
>> หารถขับ Grab ในงบไม่เกิน 300,000 บาท รับงานสบายใจ กับรถใหม่ราคามือสองที่คุ้มเว่อร์
>> งานเข้ารัฐบาล! รถตู้วินดังโพสต์ตัดพ้อ ปิดกิจการเพราะมาตรการของคสช.

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

ANNOiNA
Avatar

ANNOiNA

บรรณาธิการ
ทุกอย่างมีเหตุและผลของมันเสมอ